Curliv: ทวงคืนการควบคุมชีวิตจากไมเกรน - จัดการที่ต้นตอฮอร์โมนและความเครียด

วันที่แผนงานพัง วันที่ความสุขหายไป

เปลี่ยนวันที่ต้องทนปวด... ให้กลับมาเป็นวันของคุณอย่างเต็มที่อีกครั้ง

ค้นพบแนวทางของคุณ

เช้าวันนี้ควรจะเป็นวันที่ Productive...

ตารางประชุมสำคัญตอน 9 โมง ต่อด้วยเคลียร์อีเมล และต้องไปรับลูกตอนบ่าย ทุกอย่างถูกจัดสรรไว้อย่างดี จนกระทั่งฉันรู้สึกถึงสัญญาณเตือนนั้น...

อาการปวดตุบๆ ที่ขมับขวา แสงจากหน้าจอคอมเริ่มจ้าเกินไป เสียงในออฟฟิศเริ่มดังเกินทน

" ไม่นะ... ไม่ใช่ตอนนี้ " ฉันภาวนาในใจ แต่ลึกๆ ก็รู้ว่าแผนทั้งหมดกำลังจะพัง ฉันต้องเลือกระหว่างฝืนประชุมทั้งที่โฟกัสไม่ได้

หรือยอมแพ้แล้วกลับไปนอนซมในห้องมืด พร้อมกับความรู้สึกผิดที่ทิ้งงานและทำให้คนอื่นผิดหวัง วันนี้... ฉันแพ้อีกแล้ว

วงจรที่น่าเหนื่อยใจ ที่เราเรียกว่า "การจัดการ"

สำหรับคนที่เป็นไมเกรนมานาน คำว่า "รักษาให้หาย" ดูไกลเกินเอื้อม เราทำได้แค่ "จัดการ" มันไปวันๆ:

  • กินยาแก้ปวดแรงๆ ทั้งที่รู้ว่ามันแค่กดอาการไว้ชั่วคราว และกังวลกับผลข้างเคียง
  • ลางาน หรือยกเลิกนัดสำคัญ
  • พยายามหาสิ่งกระตุ้น แต่ก็ยังหาคำตอบที่ชัดเจนไม่ได้

มันคือวงจรที่น่าเหนื่อยใจระหว่าง "ความเจ็บปวด" และ "ความกังวล" โดยที่ไม่เคยรู้สึกว่าเราควบคุมมันได้จริงๆ เลย

จุดเปลี่ยน: เมื่อเลิกถามว่า "จะแก้ปวดยังไง" และเริ่มถามว่า "ทำไมฉันถึงปวด"

ฉันเบื่อกับการเป็นเหยื่อของอาการที่คาดเดาไม่ได้ ฉันจึงเริ่มหาข้อมูลเชิงลึกในงานวิจัยทางการแพทย์ และสิ่งที่ฉันพบก็เปลี่ยนมุมมองของฉันไปตลอดกาล

มันไม่ใช่แค่ความเครียด แต่มันคือ "สมการ" ที่ชัดเจนของร่างกายผู้หญิง:
(ความผันผวนของฮอร์โมน + ความเครียดสะสม) = ไมเกรน

ฉันได้เรียนรู้ว่า การเปลี่ยนแปลงของระดับฮอร์โมนเอสโตรเจน (โดยเฉพาะช่วงก่อนมีประจำเดือน) ทำให้สมองของเราไวต่อสิ่งกระตุ้นมากขึ้น เมื่อเจอกับความเครียดจากการทำงานและการใช้ชีวิต มันก็เหมือนการจุดชนวนให้ระบบภายในเสียสมดุล และส่งสัญญาณออกมาเป็นไมเกรน

สรุปประเด็นสำคัญ:

  • ไมเกรนในผู้หญิงมักมีต้นตอจากความไม่สมดุลของฮอร์โมน
  • ความเครียดเป็นตัวเร่งปฏิกิริยาที่สำคัญ
  • การแก้ที่ปลายเหตุ (กินยาแก้ปวด) ไม่สามารถหยุดวงจรนี้ได้อย่างยั่งยืน

เบื้องหลังทางวิทยาศาสตร์ของ "สมการไมเกรน"

ข้อมูลทางการแพทย์ที่ช่วยยืนยันความเชื่อมโยงนี้:

Headaches and Hormones: What's the connection?

แหล่งที่มา: Mayo Clinic, USA

อธิบายว่าการลดลงของฮอร์โมนเอสโตรเจน เป็นตัวกระตุ้นโดยตรงที่ทำให้เกิดไมเกรนในช่วงรอบเดือน

อ่านต้นฉบับ
The role of stress in migraine headache

แหล่งที่มา: National Institutes of Health (NIH), USA

งานวิจัยที่ระบุว่า "ความเครียด" คือปัจจัยกระตุ้นที่ถูกรายงานบ่อยที่สุดสำหรับผู้ป่วยไมเกรน

อ่านต้นฉบับ
Migraine in women

แหล่งที่มา: National Institutes of Health (NIH), USA

สรุปภาพรวมว่าทำไมผู้หญิงถึงเป็นไมเกรนมากกว่า โดยมีปัจจัยเรื่องความผันผวนของฮอร์โมนเป็นสาเหตุหลัก

อ่านต้นฉบับ

จาก "ความเข้าใจ" สู่ "ทางออกที่ฉันเลือก"

ผลิตภัณฑ์ Curliv

เมื่อเข้าใจสมการนี้แล้ว ฉันไม่ได้มองหายาแก้ปวดอีกต่อไป แต่ฉันมองหาสิ่งที่ช่วย "ปรับสมดุล" ระบบภายในจากต้นตอ เพื่อให้ร่างกายรับมือกับความผันผวนของฮอร์โมนและความเครียดได้ดีขึ้น

และนั่นคือตอนที่ฉันได้พบกับ Curliv มันไม่ใช่วิธีแก้ปวดฉุกเฉิน แต่เป็นอาหารเสริมนมผึ้งที่ออกแบบมาเพื่อสนับสนุนการปรับสมดุลฮอร์โมนสำหรับผู้หญิงโดยเฉพาะ ด้วยสารอาหารธรรมชาติที่คัดสรรมาอย่างดี (ซึ่งคุณภาพของนมผึ้ง ทั้งพันธุ์ผึ้งและแหล่งที่มาก็มีผลต่อสรรพคุณของมัน)

ชีวิตที่ฉันได้กลับคืนมา

หลายเดือนผ่านไป... สิ่งที่เปลี่ยนไปไม่ใช่แค่ความถี่ของอาการปวดที่ลดลงอย่างเห็นได้ชัด แต่คือ "ความวิตกกังวล" ที่หายไป

คือการตื่นเช้ามาแล้วไม่ต้องคอยลุ้นว่าวันนี้ไมเกรนจะมาไหม คือพลังงานที่เหลือพอจะทำงานสำคัญและยังมีเวลาคุณภาพกับครอบครัว คือการที่ฉันรู้สึกว่าฉันได้กลับมาเป็นคนควบคุมชีวิตของตัวเองจริงๆ อีกครั้ง

เสียงจากผู้ที่ได้ "การควบคุม" กลับคืนมา

"เป็นไมเกรนหนักมาเกือบสิบปี กินยาแก้ปวดเกือบทุกวัน กินทีเป็นกำๆ กินไปก็แค่เบาลงแต่ก็ไม่หายปวดเยอะอยู่ดี ได้กิน Curliv อาการไม่มาอีกเลยค่ะ ไม่คิดว่าจะหายได้จริงๆ นะ"
"อาการปวดหัวไมเกรน ปวดขึ้นมาทีนี่มันทรมานสุดๆเลยนะคะ ตั้งแต่เริ่มทานนมผึ้งอาการปวดหัวไมเกรนดีขึ้นมากๆๆยาไมเกรนไม่ต้องทานทุกวัน นอนดึกแค่ไหนตื่นมาก็สดชื่น และที่สำคัญนะคะทำให้ไม่เป็นสิว หน้าสวยใส และที่ประทับใจคือการบริการที่ดีเยี่ยม คอยถามอาการหลังจากที่ทานแล้ว สุดยอดเลยค่ะ"
สั่งซื้อเลย แอดไลน์